Vakom: ตอนนี้น้อง เรียนอยู่ที่ไหนคะ
น้อง : Kings Colleges ที่เมือง Bournemouth ค่ะ เรียกว่า “Kings Bournemouth” ก็ได้ค่ะ
Vakom: ก่อนไปน้อง เตรียมตัวอย่างไรบ้างค่ะ
น้อง : แอลมีเวลาเตรียมตัวก่อนมาแค่ 1 เดือน กะทันหันมากคะ ก็พยายามเคลียงานให้เสร็จ ทำเรื่องพาสปอร์ต วีซ่า
มีอะไรสงสัยก็ถามพี่แอนค่ะ พี่แอนบอกทีละขั้นตอน สิ่งที่ต้องเตรียม ทุกอย่างก็เลยลงตัวเร็วดี
Vakom: มาพูดถึงเรื่องการเรียนกันบ้างดีกว่าค่ะแล้วการเรียนการสอนที่ ให้ Kings Bournemouth เป็นอย่างไรบ้างคะ
น้อง : อาจารย์สอนแบบพยายามให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาคะ ใครสงสัยก็ถามได้เลย มีการบ้านให้กลับมาทำทุกวัน แต่ไม่เยอะนะคะ
Vakom: การเรียนการสอนเน้นอะไรบ้าง ต่างจากการเรียนการสอนในเมืองไืทยอย่างไรค่ะ
น้อง : เน้นทุกอย่างเลยค่ะ การเรียนการสอนที่นี่ต่างกับไทยที่จะให้นักเรียนได้พูดคุยหรือถามเพื่อนในหัวข้อที่
เราได้รับในวันนั้น ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามอาจารย์ได้ตลอดเวลาค่ะ
Vakom: อาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง ดูแลนักเรียนที่เป็นชาวเอเชียดีไหมค่ะ
น้อง : อาจารย์ดูแลทุกคนดีอย่างเท่าเทียมกันคะ ไม่มีแบ่งแยกเลย น่ารักมากๆ
Vakom: ได้ทำกิจกรรมพิเศษที่โรงเรียนบ้างมั้ยคะ
น้อง : ทำบ้างคะ ที่โรงเรียนจะมีกิจกรรมให้ทำทุกวัน มีวันนึงแอลไปนั่งดูหนังกับเพื่อนชาวอิตาลีค่ะ
Vakom: เรียนที่นี่แล้ว รู้สึกว่าเราได้อะไรบ้างคะ
น้อง : ได้ความกล้าค่ะ (ฮ่าฮ่า) ก่อนมาแอลเป็นคนไม่กล้าพูดไม่กล้าออกเสียงเลย
แต่มาที่นี่ยังไงก็ต้องพูด แล้วก็ได้เพื่อนใหม่ ได้คำศัพท์ ไวยากรณ์ การออกเสียง รวมทั้งวัฒนธรรมของชาติต่างๆด้วยค่ะ
Vakom: เรื่องค่าเรียน OK มั้ยคะ
น้อง : OK มากค่ะ ไม่แพงเกินไป เหมาะสมแล้วค่ะ
Vakom: ตอนลงเครื่องครั้งแรกรู้สึกอย่างไรคะ
น้อง หันไปบอกพี่ข้างๆ(คนไทยด้วยกัน) “โอ๊ยยยย พี่ หนูจะทำยังไงดีเนี่ย” รู้สึกตื่นเต้น ไม่รู้จักใครเลย
แอบกังวลเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกเหมือนได้ผจญภัยอะคะ
Vakom: พักอยู่กับใครคะ แล้วสำหรับค่าใช้จ่ายเรื่องที่พัก เป็นยังไงบ้าง
น้อง : พักกับโฮสแฟมิลี่ค่ะ ค่าใช้จ่ายก็โอเคดีคะ
Vakom: เพื่อนๆให้การต้อนรับดีขนาดไหนมีเพื่อนสนิทชาวต่างชาติไหมคะ
น้อง : วันแรกก็ชวนเค้าคุยไปทั่วเลยค่ะ เพื่อนๆต้อนรับดี
แม้จะสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตาม (ฮ่าฮ่า) เพราะทุกคนก็มาเรียนภาษาเหมือนกัน ก็เข้าใจกันอะค่ะ
Vakom: มีกิจกรรมยามว่างหลังจากเรียนอะไรบ้างคะ
น้อง : คุยกับเพื่อน ไปเดิน town centre ย่านช้อปปิ้งอะคะ ดูหนังที่โรงเรียน ว่าจะลองไปเล่นกีฬาดูบ้าง
ที่โรงเรียนมีโต๊ะปิงปองกับสนามบาสด้วยนะ
Vakom: นิสัยผู้คนที่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง
น้อง : ทุกคน very very nice ค่ะ มีน้ำใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันดีมากๆค่ะ
Vakom: เรื่องราวที่ประทับใจสำหรับเมืองนี้
น้อง : แอลมักจะเดินสำรวจเส้นทางใหม่ๆ แล้วก็หลงทางคะ ก็ถามทางเค้าไปเรื่อย ทุกคนจะช่วยบอกทางให้
ยิ่งกว่านั้นบางคนพาเดินไปส่งที่จุดหมายเลยค่ะ หลายๆครั้งลงป้ายรถเมล์ไม่ถูก คนทั้งรถจะช่วยกันบอกทางลงให้
และคำพูดติดปากของทุกคนคือ “hello, how are you?” , “thank you” , “sorry” ทุกคนที่นี่สุภาพมากค่ะ
ขึ้นรถเมล์ต้องทักทายคนขับ ลงรถอย่าลืมพูด thank you ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนไม่มีมารยาทไปเลยค่ะ
Vakom: วางแผนใรอนาคตอย่างไรบ้างคะ
น้อง : อยากจะเรียนต่อปริญญาโท ด้าน marketing ค่ะ
Vakom: ช่วยแนะนำน้องๆที่จะเตรียมตัวไปเรียนที่นี่หน่อยว่าต้องทำอะไรบ้าง
น้อง : น้องๆที่อยากจะมาเรียนที่นี่ ก็ต้องเตรียมตัวและเตรียมใจค่ะ
เพราะว่าอากาศที่นี่ค่อนข้างเย็นและเอาแน่เอานอนไม่ได้ เห็นแดดออกไม่ทันไรก็ฝนตก
ดังนั้นต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอค่ะ เตรียมใจรับสิ่งใหม่ๆ
เพราะการดำรงชีวิตที่นี่ไม่เหมือนอยู่กับพ่อกับแม่ ที่คอยดูแลเราทุกอย่าง
อยากได้อะไรก็ต้องจัดการเองคะ เรื่องเวลาสำคัญมาก ห้ามสายเด็ดขาด
ถ้ามาเรียนสาย อาจารย์จะไม่ให้เข้าห้องเลย แล้วถือว่าคุณขาดเรียนในวันนั้น ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นค่ะ
เขียนถึง VAKOM หน่อยนะคะ
ขอบคุณพี่ๆที่ VAKOM ที่ช่วยจัดการหลายๆเรื่อง ทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายๆไปเลยค่ะ
เรื่องเอกสารที่วุ่นวายมาก พี่ๆจัดการให้ทุกอย่าง ช่วยวางแผนสิ่งที่ต้องทำ เราอยากได้อะไรยังไงบอกพี่ๆได้หมดค่ะ
ดูแลตั้งแต่ที่ไทยจนอังกฤษ มีปัญหาอะไรก็โทรหรืออีเมล์บอกพี่ๆได้
วันแรกที่มาถึงสนามบินหาคนมารับไม่เจอ ก็ได้พี่ๆVAKOM ช่วยติดต่อประสานงานให้จนได้เจอคนมารับ
ขอบคุณที่ดูแลตลอดการเดินทางค่ะ รู้สึกอุ่นใจว่าพี่ๆอยู่กับเราตลอดเวลา พี่ๆ VAKOM น่ารักมากกกกก ขอบคุณค่ะ